ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 128
จากตอนที่แล้ว สนามธรรมยุทธ์ที่เป็นปริมณฑลกว้างขวาง บัดนี้กลับดูคับแคบลงถนัดใจ ทั้งพระราชาแคว้นต่างๆ หมู่อำมาตย์แม่ทัพนายกอง ตลอดจนไพร่พลฝ่ายปัญจาลนคร เบียดเสียดเนืองแน่นกันทั่วบริเวณ สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมองดูต้นทาง ใจจดจ่อรอคอยการมาของมโหสถบัณฑิตอยู่ไม่เว้นวาง ทุกคนต่างก็เพ่งมองไปทางทิศตะวันออก ซึ่งแสงแดดก็ยิ่งสาดส่องกล้าขึ้นตามลำดับ ต่างก็ปะทะแสงแดดเต็มหน้าด้วยกันทั้งสิ้น
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 111
ราชสำนักทุกแคว้นทั่วชมพูทวีปก็ได้มี คนของมโหสถแฝงเข้าไปรวมอยู่ในหมู่อำมาตย์ของทุกๆพระนคร ช่วยเป็นหูเป็นตาแทนมโหสถบัณฑิต ฉะนั้น ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์สำคัญใดๆในชมพูทวีป เหตุการณ์เหล่านั้นทั้งหมดก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของมโหสถบัณฑิต ผู้สำเร็จราชการแห่งมิถิลานครไปได้เลย
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 110
เมื่อ ได้ทราบถึงสิ่งของอันเป็นที่ต้องพระทัยของพระราชาทั้ง ๑๐๑ พระองค์แล้ว มโหสถบัณฑิตจึงได้มอบหมายให้ช่างวังหลวงทำเครื่องราชูปโภคต่างๆขึ้นมา เป็นกุณฑลบ้าง ฉลองพระบาทบ้าง พระขรรค์บ้าง สุวรรณมาลาบ้าง ตามแต่พระราชาเหล่านั้นจะทรงโปรดปราน
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 80
นางอมรา เทวี็ให้บริวารนำตัวอาจารย์ทั้ง ๔ ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้หมดจด เอามีดโกนทื่อ ๆ โกนผมและหนวดจนโล้น แล้วขัดตัวด้วยแผ่นอิฐจนเลือดไหลซิบๆ จากนั้นก็ให้เอาแป้งเปียกไล้ทาจนทั่วตัว แล้วโรยนุ่นตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าจนมองดูขาวโพลนไปทั้งตัว
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 41
มาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจนึกแคลงใจว่า ธรรมดาพระโพธิสัตว์ย่อมจะรู้อุปการะคุณของบิดามารดา มีความเคารพในบิดามารดาอย่างยิ่งมิใช่หรือ เมื่อเป็นดังนี้ การที่มโหสถบัณฑิตนั่งในที่สูงกว่าบิดา และกราบทูลพระราชาเช่นนั้น จะถือว่าเป็นดูหมิ่นบิดาของตนหรือไม่
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 40
ครั้นทรงสดับว่าลามหัศจรรย์ ท้าวเธอก็ยิ่งทรงฉงนพระทัย จึงตรัสถามว่า “เหตุใด เธอถึงเรียกว่าลามหัศจรรย์เล่า” มโหสถจึงรีบกราบทูลว่า “ลาตัวนี้แหละ จักทำความสงสัยของพระองค์ ให้ถึงที่สุดอย่างไรเล่า พระพุทธเจ้าข้า”
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - การให้ที่มีผลมาก (๒)
"ดูก่อนคฤหบดี เวลามพราหมณ์ ก็คือเราตถาคตนี่แหละ เราแม้เมื่อให้ทานมากมายเห็นปานนั้น ก็ไม่ได้มีบุคคลผู้สมควรจะมารับทักษิณาทานของเรา แม้เพียงคนเดียว ถึงกระนั้นก็ส่งผลให้ได้เสวยทิพยสมบัติในสวรรค์เป็นเวลายาวนาน ส่วนท่านได้ให้ทานแด่พระสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข นับว่าได้โอกาสอันเลิศแล้ว เพราะฉะนั้น จงยินดีในการให้ทานต่อไปเถิด"
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - ยิ่งให้ยิ่งได้เพิ่ม
สิริ คือ ที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติ ใครมีสิริอยู่ในตัว ย่อมจะเป็นที่มานอนแห่งโภคทรัพย์สมบัติทุกอย่าง เป็นผู้ที่มีเสน่ห์ดึงดูดตาดึงดูดใจของผู้ได้พบเห็น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเกิดจากการประกอบเหตุไว้ดี คือ เป็นผู้ที่สั่งสมบุญกุศลไว้มาก เป็นผู้ที่รักในการฝึกฝนอบรมตนเองอยู่เป็นนิตย์ ด้วยการหมั่นรักษาศีล ชำระกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์
มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - สังฆทานเป็นทานอันเลิศ
การถวายภัตตาหารหรือไทยธรรมเป็นสังฆทานนี้ พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญว่าเป็นบุญใหญ่ ได้อานิสงส์มากกว่าการถวายจำเพาะเจาะจงภิกษุรูปหนึ่งรูปใด ที่เรียกว่า ปาฏิปุคคลิกทาน เพราะฉะนั้นตั้งแต่โบราณเมื่อจะทำบุญ พระท่านจึงสอนว่าให้ถวายเป็นสังฆทาน เพราะพระสงฆ์เป็นประมุขของผู้หวังบุญ
มงคลที่ ๕ มีบุญวาสนามาก่อน - ผู้เลิศทางมีลาภ ( ๒ )
ด้วยอานุภาพบุญของพระโอรสที่อยู่ในพระครรภ์ เมื่อข้าวกล้าออกรวง ปรากฏว่า ข้าวแต่ละต้นจะแตกงอกออกเป็นร้อยเป็นพันเมล็ด และเมื่อหว่านพันธุ์ข้าวลงในนา ๑ ไร่ จะได้ข้าว ถึง ๕๐ - ๖๐ เกวียน ขณะขนข้าวขึ้นยุ้งฉาง ชาวเมืองต่างขอให้พระนางสุปปวาสาจับที่ประตูของยุ้งฉาง แม้ข้าวในยุ้งฉางจะถูกขนออกไปเท่าไร แต่ก็ไม่รู้จักหมดสิ้น
มงคลที่ ๕ มีบุญวาสนามาก่อน - ผู้เลิศทางมีลาภ ( ๑ )
พระสีวลี ชื่อนี้ทุกท่านคงจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า ท่านเป็นผู้เลิศด้วยลาภ และเพราะเหตุใดจึงทำให้ท่านได้เป็นผู้เลิศด้วยลาบ ท่านประกอบเหตุอย่างไร เราจะทำอย่าไรจึงจะได้มีลาภมากเช่นท่าน
มงคลที่ ๔ อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม - ทําสิ่งแวดล้อมให้เป็นปฏิรูปเทส ( ๒ )
มีข้อที่น่าสังเกต คือ ไม่ ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน ควรทำตัวให้เป็นที่รักของคนรอบข้าง พึงสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีกับทุกๆ คน เพราะการมีพรรคมีพวกจะทำให้เกิดความสะดวก ยามมีภัยหรือเกิดวิกฤติคับขัน จะได้มีผู้ช่วย ปกป้องคุ้มครอง หรืออย่างน้อย ก็เอาตัวรอดได้ อย่างนี้ถือว่า เริ่มสร้างปฏิรูปเทสให้เกิดขึ้นแล้ว
มงคลที่ ๓ บูชาบุคคลที่ควรบูชา - ผู้อยู่้ใกล้พระรัตนตรัย
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันขอกราบนิมนต์พระองค์พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์ เพื่อฉันภัตตาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น ด้วยสัญญาณของหม่อมฉันนี้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเถิดว่า พระองค์เป็นผู้อันหม่อมฉันนิมนต์ไว้แล้ว"
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๒๒ ( ผู้สําเร็จราชการแผ่นดิน )
เมื่อมโหสถบัณฑิตเข้ารับราชการ ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก ผ่านช่วงเวลาที่วิกฤติมาพอสมควร การกระทำของท่านได้พิสูจน์ความเป็นบัณฑิตอย่างแท้จริงให้พระราชาได้เห็น ทำให้พระเจ้าวิเทหราช ทรงมีพระหฤทัยโสมนัส ทรงเลื่อมใส ในคุณสมบัติของมโหสถเป็นอย่างยิ่ง ทรงดำริให้มโหสถบัณฑิติเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
มโหสถบัณฑิต ตอนที่ ๑๖ ( ลี้ภัยการเมือง )
วันหนึ่ง เสนกะได้แอบปรึกษาหารือกับปุกกุสะ กามินทะ และเทวินทะ ว่าทำอย่างไรจึงจะกำจัดมโหสถได้ มิเช่นนั้นพวกตน ก็จะเหมือนวัวแก่ที่ไม่มีค่าแก่การเทียมเกวียน เสนกะได้ออกอุบายด้วยการแอบไปลักขโมยพระจุฬามณีของพระราชา ให้ท่านปุกกุสะไปขโมยสุวรรณมาลา...
เวสสันดรชาดก ตอนที่ ๓ ( กำเนิดพระเวสสันดร )
ครั้นพระโพธิสัตว์ออกมาจากครรภ์ของพระมารดา เพียงลืมพระเนตรทั้งสองได้เท่านั้น ก็เหยียดพระหัตถ์ออกมาพลางกล่าวกับพระมารดาว่า “ข้าแต่พระแม่เจ้า หม่อมฉันจะบริจาคทาน มีทรัพย์อะไรพอที่จะให้ลูกบริจาคได้บ้าง” พระชนนีตรัสตอบว่า “ลูกรัก ลูกจงบริจาคทานตามอัธยาศัยเถิด” จากนั้น